ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ว่านรางจืด
ชื่อวิทยาศาสตร์: Thunbergia laurifolia Lindl.
ชื่อสามัญ: Laurel clock vine, Blue trumpet vine
ชื่อท้องถิ่น: กำลังช้างเผือก, รางจืด, เครือเถาหลง (ภาคกลาง), จอลอดี้ (กะเหรี่ยง)
ว่านรางจืดเป็นไม้เลื้อยที่พบได้ทั่วไปในป่าและสามารถปลูกได้ง่ายตามบ้านเรือน ลักษณะลำต้นเป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็ง เลื้อยพาดไปตามต้นไม้หรือค้างที่จัดไว้ มีสีเขียว ใบเดี่ยว สีเขียวเข้ม มีลักษณะรี ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ ผิวใบเรียบเป็นมัน ออกดอกเป็นช่อ มีสีม่วงอมน้ำเงินหรือสีฟ้าอมม่วง รูปทรงคล้ายระฆัง โคนดอกเป็นหลอดยาว เป็นฝักกลม ปลายแหลม เมื่อแก่แล้วจะแตกออก มีเมล็ดภายใน เป็นระบบรากแก้ว
สรรพคุณของว่านรางจืด
- ช่วยถอนพิษ และล้างสารพิษในร่างกาย
- ช่วยขับพิษจากสารเคมี ยาฆ่าแมลง
- ลดอาการแพ้จากพิษของสัตว์กัดต่อย เช่น งู ตะขาบ แมลงป่อง
- ช่วยลดผลข้างเคียงจากยาเสพติด แอลกอฮอล์ และบุหรี่
- ขับพิษจากอาหาร เช่น อาหารทะเล สารกันบูด
- ช่วยบำรุงร่างกาย และรักษาโรค
- แก้อาการเมาสุรา ลดอาการแฮงค์
- บำรุงตับ ฟื้นฟูการทำงานของตับจากการได้รับสารพิษ
- แก้ร้อนใน ลดอาการกระหายน้ำ
- บรรเทาอาการปวดหัว วิงเวียนศีรษะ
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ
- มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอย
- แก้อาการแพ้ ผื่นคัน และอาการอักเสบของผิวหนัง
วิธีการใช้ว่านรางจืดในการแก้พิษ
ใช้ถอนพิษจากสารเคมีและยาเสพติด
- ใบสด: ตำใบสด 5-10 ใบ ผสมน้ำคั้นดื่ม
- ราก: ต้มรากแห้งดื่ม ใช้แทนน้ำชา
ใช้แก้พิษสัตว์กัดต่อย
- นำใบสดมาขยี้หรือบดให้ละเอียด แล้วพอกลงบนแผล
ใช้บำรุงร่างกาย
- นำใบหรือรากแห้งมาต้มดื่มเป็นชาสมุนไพร
- นำใบสด 10-15 ใบ ต้มกับน้ำ 1 ลิตร ดื่มเป็นประจำ
สารสำคัญที่พบในว่านรางจืด
- กรดฟีนอลิก (Phenolic acids) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันโรคเบาหวาน
- ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ต้านการอักเสบ ป้องกันภูมิแพ้ บำรุงหลอดเลือด ต้านอนุมูลอิสระ
- แทนนิน (Tannins) มีฤทธิ์ฝาดสมาน ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร และช่วยล้างสารพิษ
- อัลคาลอยด์ (Alkaloids) มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย และช่วยลดอาการเมาสุรา
- ไกลโคไซด์ (Glycosides) ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และลดการอักเสบ
- สเตียรอยด์ (Steroids) และ เทอร์พีนอยด์ (Terpenoids) ช่วยลดอาการอักเสบ และช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
ข้อควรระวังในการใช้ว่านรางจืด
- ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ร่างกายขับสารอาหารที่จำเป็นออกไป
- ไม่ควรใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีภาวะร่างกายเย็นง่าย
- ควรเลือกใช้สมุนไพรจากแหล่งที่ปลอดสารเคมี

